HEPA FILTER
แผ่นกรองอากาศ HEPA หรือที่ย่อมาจากคำว่า “High Efficiency Particulate Air Filter” จัดเป็น แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง ทำมาจากเส้นใยไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) ถักทอจนมีขนาดที่เล็กมากๆ จนมันมีความสามารถ ในของการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมากๆ (Small Particles) ได้เป็นอย่างดี
มีหลายคนสงสัยว่าแผ่นกรองอากาศ “HEPA Filter” ที่อยู่ในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ (เช่น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องฟอกอากาศ) มันคืออะไร ? ทำงานอย่างไร ? และแตกต่างกับแผ่นกรองอากาศแบบทั่วไปอย่างไร ?
ครั้งนี้เราจึงจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ HEPA Filter กันค่ะ
แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถดักจับสิ่งสกปรกที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนไม่ได้ เพราะคุณสมบัติที่กล่าวนั้นเป็นเพียงเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการใช้คำว่า HEPA เท่านั้น ปัจจุบันก็มี HEPA Filter หลายเกรด ซึ่งบางเกรดก็สามารถกรองสิ่งสกปรกได้เล็กกว่านั้น
คุณสามารถสังเกตุได้อย่างง่ายดาย ด้วยการดูที่ตัวเลขที่ตามหลังตัวอักษร “H” โดยยิ่งตัวเลขที่ตามหลังจำนวนสูง คุณสมบัติในการกรองยิ่งสูงขึ้นตาม :
จะเห็นได้ว่ายิ่งเป็นแผ่นกรองที่มีเกรดสูงมากเท่าไหร่ ความละเอียดในการกรองก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นหากคุณต้องการปลอดภัยจากอันตรายของฝุ่นจิ๋ว การเลือกแผ่นกรองอากาศ HEPA เกรดสูง (H13-H14) ก็จะถือว่าตอบโจทย์ที่สุด
ข้อดีหลักๆ ของมันคือ มันเป็นตัวช่วยในการสร้างอากาศบริสุทธิ์ในบริเวณที่มีการใช้งาน ด้วยการลดจำนวนสิ่งสกปรกและสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้คุณและคนในครอบครัวห่างไกลจากอันตรายและโรคร้ายที่จะตามมาจากฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ หรือโรคร้ายต่างๆในระบบทางเดินหายใจ (เช่น มะเร็ง)
ถ้าให้เข้าใจกันง่ายๆ ก็ต้องอธิบายให้เห็นภาพใหญ่ก่อน คือเมื่อมีอากาศที่กำลังจะผ่านแผ่นกรองไป เส้นใยทำผสานกันอย่างหนาแน่นก็จำทำหน้าที่เป็นเหมือนกำแพงหลายๆ ด่าน เพื่อไม่ให้สิ่งที่ปนเปื้อนมากับอากาศหลุดรอดไปนั่นเอง
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของสิ่งสกปรกที่ปกเปื้อนมากับอากาศด้วย เพราะมันก็จะถูกดับจับในวิธีที่ต่างกัน 4 รูปแบบ
1. การชน (Direct Impaction) : เป็นวิธีที่สิ่งสกปรกขนาดใหญ่ เช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือเชื้อราบางชนิด ลอยมาชนและติดเข้ากับเส้นใยของแผ่นกรองโดยตรง
2. การคัดกรอง (Sieving) : ในกรณีที่สิ่งสกปรกเหล่านั้นไม่ได้มาชนเส้นใยโดยตรง แต่ด้วยความหนาแน่นของเส้นใยในแผ่นกรอง ทำให้ช่องว่างระหว่างเส้นต่อเส้นมีน้อย ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ที่ไม่ได้ลอยมาชนก็จะไม่สามารถผ่านช่องว่างนั้นไปได้อยู่ดี
3. การสกัดกั้น (Interception) : กลไกการสกัดกั้นคือ เมื่อฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่มีขนาดเล็กเคลื่อนไปตามการไหลเวียนของอากาศที่รวดเร็ว ก็อาจจะทำให้มันสามารถเคลื่อนไหวอ้อมเส้นใยด่านแรกๆ ไปได้ แต่ด้วยความหนาแน่นของเส้นใย และแรงเฉื่อย สุดท้ายสิ่งสกปรกขนาดเล็กเหล่านั้นก็จะติดกับด้านข้างของเส้นใยอย่างในรูปในที่สุด
4. การแพร่ (Diffusion) : ฝุ่นและสิ่งสกปรกที่มีขนาดเล็กมาก (เช่น ที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน) มักจะมีเส้นทางการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นทิศไม่เป็นทาง ทำให้พวกมันมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวไปชนกับและติดกับเส้นใยด้วยตัวเอง
ทีนี้เราลองมาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างแผ่นกรองอากาศ HEPA Filter กับแผ่นกรองอากาศแบบทั่วไปกันบ้าง และเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ เราจึงทำเป็นรูปแบบตารางแบบด้านล่างนี้
* MERV เป็นชื่อย่อมาจาก Minimum Efficiency Reporting Value คือสิ่งที่เอาไว้ให้คะแนนความสามารถในการกรองอนุภาคของตัวกรองต่างๆ ในอากาศ โดยมีคะแนนตั้งแต่ 1- 16 ซึ่งถูกพัฒนามาโดยสมาคมวิศวกรเครื่องทำความร้อน ตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศของอเมริกา ASHRAE (American Society of Heating, Refrigeration and Air Conditioner Engineers )
โดยปกติแล้วแผ่นกรองอากาศ HEPA Filter จะมีอายุการใช้งานประมาณ 4-5 ปี แต่ในความเป็นจริง ถ้าคุณมีการใช้งานมันเป็นประจำทุกวัน ก็ควรหมั่นทำความสะอาด หรืออาจจะต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
ในการทำความสะอาด เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วแผ่นกรองอากาศ HEPA Filter มักจะทำมาจากวัสดุไฟเบอร์กลาส (Fibeglass) ดังนั้นมันจึงไม่สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการซักล้างและใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ เพราะมันอาจจะทำลายเส้นใยของแผ่นกรองได้ แต่คุณสามารถทำความสะอาดได้โดยการใช้แปรงปัดฝุ่นที่อยู่ตามร่อง และเคาะเบาๆให้ฝุ่นหลุดออกมาจากแผ่นกรอง
ทั้งนี้ ถ้าคุณเห็นว่าแผ่นกรองอากาศเริ่มดำจนแทบจะไม่มีพื้นที่ที่เป็นสีขาวแล้ว ก็ควรที่จะเปลี่ยน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วคนส่วนใหญ่มักจะเปลี่ยนทุก 1-2 ปี
ในการตอบคำถามนี้ คุณอาจจะต้องเริ่มหันไปมองรอบตัวของคุณก่อนว่า คุณหรือคนในครอบครัวของคุณมีใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจหรือไม่ เช่น อาจจะมีใครในครอบครัวที่มีโรคประจำตัวเป็น โรคภูมิแพ้ หรือโรคหอบหืด
ถ้ามี แน่นอนว่าคุณก็ควรที่จะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเช่น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องฟอกอากาศ หรือในโรงงาน ที่ทำงานออฟฟิศ เช่น เครื่องดักฝุ่น เครื่องดักควัน ระบบำบัดมลภาวะทางอากาศ ที่มาพร้อมกับแผ่นกรองอากาศ HEPA Filter เพื่อช่วยให้อากาศของคุณปลอดภัยมากที่สุดนั่นเอง
แต่ถึงคุณหรือคนในครอบครัวจะไม่ได้มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับทางเดินหายใจ การใช้มันก็จะให้ประโยชน์เมื่อ :
สุดท้ายแล้ว คำตอบของคำถามนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่า คุณจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ได้กล่าวไปด้านบนเพื่อคุณภาพชีวิตและการเป็นอยู่ที่ดีของคนในบ้านมากน้อยแค่ไหน
-----------------------------------------------